ท่่ารำจาก ทรูปลูกปัญญา

วันจันทร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

การสงครามโลกครั้งที่1

สงครามโลกครั้งที่หนึ่งจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรีไปที่: ป้ายบอกทาง, ค้นหา
สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง

รูปภาพเรียงตามเข็มนาฬิกาเริ่มจากภาพบนสุด: การรบแบบสนามเพลาะในแนวรบฝั่งตะวันตก; รถถัง Mark IV ของอังกฤษกำลังเคลื่อนผ่านสนามเพลาะ; HMS Irresistible เรือรบหลวงแห่งราชนาวีอังกฤษกำลังอับปางหลังจากปะทะเข้ากับทุ่นระเบิด ในยุทธนาวีดาร์เนลส์; ทหารอังกฤษในหน้ากากกันแก๊สกำลังคุมปืนกลวิคเกอร์ส และฝูงเครื่องบินปีกสองชั้นรุ่น Albatros D.III ของเยอรมนี
วันที่ 28 กรกฎาคม ค.ศ. 1914 – 11 พฤศจิกายน ค.ศ. 1918
สถานที่ ทวีปยุโรป ทวีปแอฟริกา และในภูมิภาคตะวันออกกลาง (รวมถึงการรบย่อย ๆ ในเอเชียใต้ ประเทศจีนและหมู่เกาะตามมหาสมุทรแปซิฟิก)
ผลลัพธ์ ชัยชนะของฝ่ายไตรภาคี; การล่มสลายของจักรวรรดิเยอรมัน จักรวรรดิรัสเซีย จักรวรรดิออตโตมาน จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี; สนธิสัญญาภายหลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง; การก่อตั้งสันนิบาตชาติ; การถือกำเนิดของสหภาพโซเวียต

ผู้ร่วมสงคราม
มหาอำนาจไตรภาคี (พันธมิตร):
จักรวรรดิรัสเซีย
ฝรั่งเศส
จักรวรรดิบริเตน
ราชอาณาจักรอิตาลี
สหรัฐอเมริกา มหาอำนาจกลาง (ไตรพันธมิตร):
ออสเตรีย-ฮังการี
จักรวรรดิเยอรมัน
จักรวรรดิออตโตมาน
ราชอาณาจักรบัลแกเรีย
ผู้บัญชาการ
ผู้นำและผู้บัญชาการฝ่ายพันธมิตร ผู้นำและผู้บัญชาการฝ่ายมหาอำนาจกลาง
ความสูญเสีย
ทหารเสียชีวิต:
5,525,000 นาย
ทหารบาดเจ็บ:
12,831,500 นาย
ทหารหายสาบสูญ:
4,121,000 นาย ทหารเสียชีวิต:
4,386,000 นาย
ทหารบาดเจ็บ:
8,388,000 นาย
ทหารหายสาบสูญ:
3,629,000 นาย

สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง (อังกฤษ: World War I หรือ First World War) หรือเป็นที่รู้จักกันว่า "สงครามครั้งยิ่งใหญ่" (อังกฤษ: Great War) หรือ "สงครามเพื่อยุติสงครามทั้งมวล" (อังกฤษ: War to End All Wars) เป็นสงครามที่เกิดขึ้นในช่วง ค.ศ. 1914 - ค.ศ. 1918 โดยประเทศมหาอำนาจทั้งหมดของโลกเข้าร่วมสงคราม[1] แบ่งออกเป็นฝ่ายสัมพันธมิตร (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไตรภาคี) และฝ่ายมหาอำนาจกลาง[2] โดยพบว่ามีทหารกว่า 70 ล้านคนมีส่วนร่วมในการรบ[3] ผลจากสงครามทำให้มีผู้เสียชีวิต บาดเจ็บและสูญหาย รวมกันไม่ต่ำกว่า 40 ล้านคน[4] ถือเป็นสงครามที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในประวัติศาสตร์ลำดับที่สอง[5]

สาเหตุหนึ่งของสงครามโลกครั้งที่หนึ่งก็คือ การลอบปลงพระชนม์อาร์คดุยค ฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์ รัชทายาทของบัลลังก์จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี โดยกัฟรีโล ปรินซีป ชาวเซิร์บบอสเนีย ซึ่งเป็นสมาชิกของแก๊งมือมืด และการแก้แค้นของจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีต่อราชอาณาจักรเซอร์เบียก็ทำให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ก่อให้เกิดสงครามครั้งใหญ่ปะทุขึ้นในทวีปยุโรป ภายในหนึ่งเดือน ทวีปยุโรปส่วนมากก็อยู่ในสภาวะสงคราม

สงครามโลกครั้งที่หนึ่งสิ้นสุดลงด้วยชัยชนะของฝ่ายพันธมิตร และความปราชัยของฝ่ายมหาอำนาจกลาง - จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี และจักรวรรดิออตโตมัน ได้แตกเป็นประเทศเกิดใหม่จำนวนมาก[6] โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในยุโรปกลาง[7] การสื้นสุดของจักรวรรดิรัสเซีย นำไปสู่การก่อตั้ง สหภาพโซเวียต อันเป็นผลมาจากการปฏิวัติรัสเซีย ต่อมา ได้มีการก่อตั้ง สันนิบาตชาติ เพื่อเป็นองค์การระหว่างประเทศที่มีจุดประสงค์เพื่อการแก้ไขปัญหาระหว่างประเทศด้วยวิธีการทางการทูต แต่ทว่าจากลัทธิชาตินิยมที่เกิดขึ้นภายหลังสงคราม ประกอบกับสนธิสัญญาแวร์ซายส์ ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่การปะทุของสงครามโลกครั้งที่สอง[8]

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น