ท่่ารำจาก ทรูปลูกปัญญา

วันเสาร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2554

การสอนเขียน

การวางแผนการสอน
การวางแผนการสอน เป็นภารกิจสำคัญของครูผู้สอน ทำให้ผู้สอนทราบล่วงหน้าว่าจะสอนอะไร เพื่อจุดประสงค์ใด สอนอย่างใด ใช้สื่ออะไร และวัดผลประเมินผลโดยวิธีใดเป็นการเตรียมตัวให้พร้อมก่อนสอน การที่ผู้สอนได้วางแผนการสอนอย่างถูกต้องตามหลักการย่อมช่วยให้เกิดความมั่นใจในการสอน ทำให้สอนได้ครอบคลุมเนื้อหา สอนอย่างมีแนวทางและมีเป้าหมาย และเป็นการสอนที่ให้คุณค่าแก่ผู้เรียน ดังนั้น ผู้สอนจึงจำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับความหมาย ความสำคัญ ลักษณะ ขั้นตอนการจัดทำและหลักการวางแผนการสอน ตลอดจนลักษณะของแผนการสอนที่ดี เพื่อส่งผลให้การเรียนการสอนดำเนินไปสู่จุดหมายปลายทางที่กำหนดไว้อย่างมีประสิทธิภาพ

ความหมายของการวางแผนการสอน
การวางแผนการสอนเป็นการจัดวางโปรแกรมการสอนทั้งหมดในวิชาใดวิชาหนึ่งไว้ล่วงหน้า เพื่อช่วยให้ครูผู้สอนได้จัดดำเนินกระบวนการเรียนการสอนให้เป็นไปตามจุดมุ่งหมายของหลักสูตรที่วางไว้ ดังนั้นในแผนการสอนจะต้องประกอบไปด้วยรายละเอียดตามที่หลักสูตรกำหนดไว้ เช่น มีจุดประสงค์ความคิดรวบยอด/หลักการ เนื้อหา กิจกรรมการเรียนการสอน สื่อการเรียนการสอน การวัดผล/ประเมินผล และจำนวนคาบเวลาที่ใช้สอน ทุกสิ่งทุกอย่างจะต้องจัดรวมไว้อย่างมีระบบระเบียบในแผนการสอน

การวางแผนการสอนเป็นการเตรียมตัวล่วงหน้าก่อนสอน เพื่อให้การเรียนการสอนบรรลุจุดมุ่งหมายที่กำหนดไว้ โดยใช้ข้อมูลที่ได้จากการสำรวจปัญหาการสำรวจทรัพยากรการวิเคราะห์เนื้อหาการวิเคราะห์ผู้เรียนการกำหนดมโนมติ วัตถุประสงค์ กิจกรรมการเรียน สื่อการสอน และการประเมินผล แล้วเขียนแผนออกมาในรูปของแผนการสอน

การวางแผนการสอน คือกิจกรรมในการคิดและการทำของครูก่อนที่จะเริ่มดำเนินการสอนวิชาใดวิชาหนึ่ง ซึ่งโดยทั่วไปจะประกอบด้วยการกำหนดจุดมุ่งหมาย การคัดเลือกเนื้อหา การกำหนดกิจกรรมการเรียนการสอน การเลือกตำรา เอกสาร อุปกรณ์ การประเมินผล และการพิมพ์ประมวลการสอนรายวิชา

จากความหมายดังกล่าวข้างต้นพิจารณาได้ว่า เป็นความหมายที่อธิบายถึงกิจกรรมและข้อมูลที่จะต้องใช้ในการวางแผนการสอน จึงสรุปความหมายได้ว่าการวางแผนการสอน คือ การเตรียมการสอนอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรไว้ล่วงหน้า เพื่อเป็นแนวทางการสอนสำหรับครู อันจะช่วยให้การเรียนการสอนบรรลุจุดประสงค์ที่กำหนดไว้อย่างมีประสิทธิภาพ

ข้อมูลที่ผู้สอนต้องเตรียมในการวางแผนการสอน ได้แก่
1. การกำหนดจุดประสงค์
2. การคัดเลือกเนื้อหา
3. การกำหนดกิจกรรมการเรียนการสอน
4. การเลือกสื่อการเรียนการสอน
5. การวัดผลประเมินผล
ผู้สอนควรได้จัดเตรียมข้อมูลเหล่านี้อย่างสอดคล้องต่อเนื่องกัน เพื่อประโยชน์ในการนำไปปฏิบัติจริง

ความสำคัญของการวางแผนการสอน
การวางแผนการสอน เป็นงานสำคัญของครูผู้สอน การสอนจะประสบผลสำเร็จด้วยดีหรือไม่มากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับการวางแผนการสอนเป็นสำคัญประการหนึ่ง ถ้าผู้สอนมีการวางแผนการสอนที่ดีก็เท่ากับบรรลุจุดหมายปลายทางไปแล้วครึ่งหนึ่ง การวางแผนการสอนจึงมีความสำคัญหลายประการ ดังนี้

1. ทำให้ผู้สอนสอนด้วยความมั่นใจเมื่อเกิดความมั่นใจในการสอนย่อมจะสอนด้วยความแคล่วคล่อง เป็นไปตามลำดับขั้นตอนอย่างราบรื่น ไม่ติดขัด เพราะได้เตรียมการทุกอย่างไว้พร้อมแล้ว การสอนก็จะดำเนินไปสู่จุดมุ่งหมายปลายทางอย่างสมบูรณ์

2. ทำให้เป็นการสอนที่มีคุณค่าคุ้มกับเวลาที่ผ่านไป เพราะผู้สอนสอนอย่างมีแผน มีเป้าหมาย และมีทิศทางในการสอน มิใช่สอนอย่างเลื่อนลอย ผู้เรียนก็จะได้รับความรู้ ความคิด เกิดเจตคติ เกิดทักษะ และเกิดประสบการณ์ใหม่ตามที่ผู้สอนวางแผนไว้ ทำให้เป็นการเรียนการสอนที่มีคุณค่า

3. ทำให้เป็นการสอนที่ตรงตามหลักสูตร ทั้งนี้เพราะในการวางแผนการสอน ผู้สอนต้องศึกษาหลักสูตรทั้งด้านจุดประสงค์การสอนเนื้อหาสาระที่จะสอนการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน การใช้สื่อการสอน และการวัดผลประเมินผล แล้วจัดทำออกมาเป็นแผนการสอน เมื่อผู้สอนสอนตามแผนการสอน ก็ย่อมทำให้เป็นการสอนที่ตรงตามจุดหมายและทิศทางของหลักสูตร

4. ทำให้การสอนบรรลุผลอย่างมีประสิทธิภาพดีกว่าการสอนที่ไม่มีการวางแผนเนื่องจากในการวางแผนการสอนผู้สอนต้องวางแผนอย่างรอบคอบในทุกองค์ประกอบของการสอน รวมทั้งการจัดเวลา สถานที่ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ซึ่งจะเอื้ออำนวยให้เกิดการเรียนรู้ได้โดยสะดวกและง่ายดายขึ้น ดังนั้น เมื่อมีการวางแผนการสอนที่รอบคอบและปฏิบัติตามแผนการสอนที่วางไว้ ผลของการสอนย่อมสำเร็จได้ดีกว่าการไม่ได้วางแผนการสอน

5. ทำให้ผู้สอนมีเอกสารเตือนความจำ สามารถนำมาใช้เป็นแนวทางในการสอนต่อไป ทำให้ไม่เกิดความซ้ำซ้อนและเป็นแนวทางในการทบทวนหรือการออกข้อทดสอบเพื่อวัดผลประเมินผผู้เรียนได้ นอกจากนี้ทำให้ผู้สอนมีเอกสารไว้ให้แนวทางแก่ผู้ที่เข้าสอนแทนในกรณีจำเป็น เมื่อผู้สอนไม่สามารถเข้าสอนเองได้ ผู้เรียนจะได้รับความรู้และประสบการณ์ที่ต่อเนื่องกัน

6. ทำให้ผู้เรียนเกิดเจตคติที่ดีต่อผู้สอนและต่อวิชาที่เรียน ทั้งนี้เพราะผู้สอน สอนด้วยความพร้อม เป็นความพร้อมทั้งทางด้านจิตใจ และความพร้อมทางด้านวัตถุ ความพร้อมทางด้านจิตใจคือความมั่นใจในการสอน เพราะผู้สอนได้เตรียมการสอนมาอย่างรอบคอบ ส่วนความพร้อมทางด้านวัตถุคือ การที่ผู้สอนได้เตรียมเอกสารหรือสื่อการสอนไว้อย่างพร้อมเพียง เมื่อผู้สอนเกิดความพร้อมในการสอน ย่อมสอนด้วยความกระจ่างแจ้ง ทำให้ผู้เรียนเกิดความเข้าใจอย่างชัดเจนในบทเรียน อันส่งผลให้ผู้เรียนเกิดเจตคติที่ดีต่อผู้สอนและต่อวิชาที่เรียน

ลักษณะการวางแผนการสอน
การวางแผนการสอนทำให้ผู้สอนได้ทราบว่าจะต้องสอนอะไร สอนอย่างไร สอนเมื่อใด ใช้เวลาเท่าใด ใช้อะไรประกอบการสอนบ้าง และวัดผลประเมินผลอย่างไร ดังนั้นในการวางแผนการสอนเพื่อให้ได้ทราบข้อมูลดังกล่าว จึงต้องจัดทำเป็น 2 ขั้นตอน ได้แก่
ขั้นตอนที่ 1. จัดทำเป็นกำหนดการสอน
ขั้นตอนที่ 2. จัดทำเป็นแผนการสอน
ในขั้นแรกผู้สอนต้องจัดทำกำหนดการสอนก่อน โดยวิเคราะห์เนื้อหาสาระจากคำอธิบายรายวิชา เมื่อจัดทำกำหนดการสอนแล้ว จึงนำกำหนดการสอนมาเป็นแนวทางการจัดทำแผนการสอน ดังนั้นผู้สอนจึงควรได้ทราบลักษณะของกำหนดการสอน และแผนการสอนซึ่งมีดังนี้

กำหนดการสอน
กำหนดการสอนเป็นเอกสารสำคัญที่ครูทุกคนจะต้องใช้เป็นหลักในการวางแผนการสอน จัดเป็นการวางแผนการสอนระยะยาวตลอดภาคเรียน หรือตลอดปีการศึกษาโดยไม่มีรายละเอียดมากนัก

ความหมายของกำหนดการสอน
กำหนดการสอน คือ แผนงานการสอนหรือโครงการสอน ที่จัดทำขึ้นจากหลักสูตรและคู่มือครู หรือแนวการสอนของกรมวิชาการ โดยกำหนดเนื้อหาสาระสำคัญ จำนวนคาบ เวลาและสัปดาห์ที่สอนไว้ตลอดภาคเรียน หรือตลอดปีการศึกษาทำให้ผู้สอนได้ทราบว่าตลอดภาคเรียนนั้น ในแต่ละสัปดาห์จะต้องสอนเนื้อหาใดบ้าง จัดกิจกรรมข้อใดและในเวลากี่คาบ

ความสำคัญของกำหนดการสอน
กำหนดการสอนเป็นการวางแผนระยะยาว ซึ่งจำเป็นต้องจัดทำให้เสร็จก่อนเริ่มเปิดภาคเรียนหรือปีการศึกษาใหม่ เพราะกำหนดการสอนมีความสำคัญ ดังต่อไปนี้

1. เป็นแนวทางในการทำแผนการสอนของครู กล่าวคือ การจัดทำแผนการสอนจำเป็นต้องดูกำหนดการสอนเป็นหลัก ทั้งนี้เพราะกำหนดการสอนจะบ่งให้ทราบว่า ในแต่ละวันของสัปดาห์จะต้องสอนเนื้อหาใด กิจกรรมข้อใด ผู้สอนก็จะทำแผนการสอนของเนื้อหาที่จะสอนในแต่ละวันแต่ละวันแต่ละวิชาได้ถูกต้องตรงกันกับกำหนดการสอน

2. ทำให้ครูได้เห็นแผนงานการสอนระยะยาว ได้ทราบเนื้อหาที่จะต้องสอนตลอดภาคเรียนนั้นเป็นประโยชน์ต่อการเตรียมตัวและการวางแผนทำงานตลอดภาคเรียนหรือตลอดปีการศึกษา

3. เป็นประโยชน์ต่อฝ่ายวิชาการและฝ่ายบริหารของโรงเรียนในการวางแผนงานบริหารด้าน วิชาการของโรงเรียน เช่น การวางแผนจัดทำตารางสอน จัดครูเข้าสอน จัดเตรียมเอกสาร จัดเตรียมวันสอบกลางภาค สอบปลายภาค จัดเตรียมสื่อการสอน เตรียมห้องสมุด เตรียมห้องเรียน เตรียมการใช้อาคารสถานที่ต่าง ๆ เป็นต้น

รูปแบบของกำหนดการสอน
โดยทั่วไป กำหนดการสอนจะเขียนในรูปแบบของตารางประกอบด้วยสัปดาห์ที่สอน เนื้อหาในแต่ละสัปดาห์ และจำนวนคาบเวลา นอกจากนี้อาจมีรูปแบบอื่นที่มีรายละเอียดมากกว่านี้ ขึ้นอยู่กับนโยบายของโรงเรียน อย่างไรก็ตาม รูปแบบดังตัวอย่างที่นำเสนอเป็นรูปแบบที่นิยมใช้

ตัวอย่างกำหนดการสอน

วันแม่

วันแม่จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ไปที่: ป้ายบอกทาง, ค้นหา
บทความนี้เกี่ยวกับวันแม่ในความหมายโดยรวม สำหรับวันแม่ในประเทศไทย ดูที่ วันแม่แห่งชาติ (ประเทศไทย) ‎

ดอกมะลิ สัญลักษณ์หนึ่งของวันแม่ในประเทศไทยวันแม่ เป็นวันที่สำคัญในหลายประเทศทั่วโลกจัดขึ้นเพื่อให้เกียรติแม่และความเป็นแม่ ในประเทศไทยวันแม่แห่งชาติ ตรงกับวันที่ 12 สิงหาคม ของทุกปี ในประเทศอื่นทั่วโลกวันแม่จะอยู่ในช่วง เดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม ส่วนในอังกฤษและไอร์แลนด์วันแม่ถูกจัดขึ้นต่อจากวันอาทิตย์แห่งความเป็นแม่ซึ่งเป็นวันสำคัญของศาสนาคริสต์

วันสำคัญที่ให้ระลึกถึงความเป็นพ่อถูกเรียกว่าวันพ่อ

เนื้อหา [ซ่อน]
1 ประวัติ
2 วันแม่ในประเทศต่าง ๆ
2.1 ประเทศญี่ปุ่น
2.2 ประเทศไทย
2.3 วันแม่นานาชาติ
3 ดูเพิ่ม
4 เชิงอรรถ
5 อ้างอิง


[แก้] ประวัติในวานเปตรยุคโรมันโบราณมีวันหยุดที่คล้ายกันคือ มาโตรนาเลีย ซึ่งเป็นวันที่ระลึกถึงเทพีจูโน เทพีผู้พิทักษ์ ส่วนในยุโรปมีประวัติเกี่ยวกับวันแม่ที่หลากหลาย ตัวอย่างเช่น วันอาทิตย์แห่งความเป็นแม่ (Mothering Sunday) ซึ่งเป็นวันสำคัญของศาสนาคริสต์ ในสหรัฐอเมริกาได้มีการผลักดันให้มีการฉลองวันแม่ภายหลังสงครามกลางเมืองอเมริกัน โดย จูเลีย วอร์ด ฮาว โดยมีความเชื่อว่าเพศหญิงเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยสร้างสังคม วันผู้หญิงนานาชาติได้มีการเฉลิมฉลองครั้งแรกเมื่อ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2452 ในสหรัฐอเมริกา[1] ซึ่งในเวลาใกล้เคียงกัน แอนนา ยาร์วิสได้เริ่มผลักดันให้มีการเฉลิมฉลองวันแม่ในสหรัฐอเมริกา

[แก้] วันแม่ในประเทศต่าง ๆประเทศอื่น ๆ ก็มีการกำหนดวันแม่ไว้เช่นเดียวกัน ตัวอย่างเช่น สหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น ใช้วันอาทิตย์ที่สองของเดือนพฤษภาคม ประเทศรัสเซียใช้วันที่ 28 พฤศจิกายน เป็นต้น ทั้งนี้บางประเทศมีการเฉลิมฉลองในวันสตรีสากล

[แก้] ประเทศญี่ปุ่นในญี่ปุ่น ปี 1931 (หรือปีโชวะที่ 6) องค์กร สตรีสูงสุดของญี่ปุ่นได้ตั้ง วันที่ 06 มีนาคม ซึ่งเป็นวันฉลองพระราชสมภพ ของ พระราชินี คาโอรุ มาโคโตะ (Empress Kaoru Makoto) เป็น "วันแม่" ต่อมาในปี 1937 วันที่ 5 พฤษภาคม (หรือปีโชวะที่12 ) และได้เปลี่ยนแปลงอีกครั้งเมื่อ (ได้รับการสนับสนุนโดยคณะกรรมการกลางให้จัดตั้งวันแม่) ขึ้นใหม่ในปี 1949 (หรือปีโชวะที่24 ) โดยมาจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่สองในเดือนพฤษภาคม ตามประเทศสหรัฐอเมริกาและอีกหลายๆประเทศ

ทั้งนี้ วันเด็ก 5 พฤษภาคม เป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ (วันหยุดแห่งชาติตามกฎหมาย) "เพื่อให้เด็กได้มีความสุขกับครอบครัวและ ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อขอบคุณแม่ที่ทำให้เราได้เกิดมาอีกด้วย

ในวันแม่ ปกติประเทศญี่ปุ่นจะให้ดอกคาร์เนชั่นแต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ ไม่เพียงดอกคาร์เนชั่นเท่านั้น แต่ดอกกุหลาบสีชมพูและดอกเยอบิร่า ก็ให้ได้เช่นกัน

[แก้] ประเทศไทยดูบทความหลักที่ วันแม่แห่งชาติ (ประเทศไทย)
ในประเทศไทย เดิมมีการจัดงานวันแม่ โดยสำนักวัฒนธรรมฝ่ายหญิง สภาวัฒนธรรมแห่งชาติ ตรงกับวันที่ 15 เมษายน ของทุกปี ตั้งแต่ พ.ศ. 2493 ตามมติคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2493 ในคณะรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม[2] ต่อมาในปี พ.ศ. 2519 ได้เปลี่ยนมาเป็นวันที่ 12 สิงหาคม ตรงกับวันเฉลิมพระชนมพรรษาในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พร้อมกับได้กำหนดให้ดอกมะลิเป็นดอกไม้สัญลักษณ์แทนวันแม่ เนื่องจากเป็นดอกไม้ที่มีสีขาว มีกลิ่นหอมและออกดอกได้ตลอดทั้งปี เปรียบได้กับความรักอันบริสุทธิ์ของแม่ที่มีต่อลูก[3]

วันพ่อ

วันพ่อแห่งชาติจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ไปที่: ป้ายบอกทาง, ค้นหา
สำหรับวันพ่อในต่างประเทศ ดูที่ วันพ่อ
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูลอันน่าเชื่อถือ คุณสามารถพัฒนาบทความนี้ได้โดยเพิ่มแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ บทความที่ไม่มีแหล่งอ้างอิงอาจพิจารณาให้ลบ

วันพ่อแห่งชาติ ตรงกับวันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และเป็น วันชาติ อีกด้วย

กิจกรรมวันพ่อแห่งชาติจัดติดต่อกันทุกปีตั้งแต่ พ.ศ. 2523 โดยการริเริ่มของนายกสมาคมผู้อาสาสมัครและช่วยการศึกษา คุณหญิงเนื้อพิทย์ เสมรสุต สัญลักษณ์ที่ใช้ในวันพ่อได้แก่ ดอกพุทธรักษา ซึ่งมีชื่ออันเป็นมงคล

เนื้อหา [ซ่อน]
1 ประวัติ
2 วัตถุประสงค์
2.1 กิจกรรม
3 ดูเพิ่ม


[แก้] ประวัติวันพ่อแห่งชาติ ได้จัดให้มีขึ้นครั้งแรก เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2523 โดยคุณหญิงเนื้อทิพย์ เสมรสุต นายกสมาคมผู้อาสาสมัครและช่วยการศึกษา หลักการและเหตุผลที่มีการจัดตั้งวันพ่อขึ้นแห่งชาติ เนื่องจากพ่อ เป็นบุคคลผู้มีพระคุณและมีบทบาทสำคัญต่อครอบครัวและสังคมที่ผู้เป็นลูกจะเคารพเทิดทูนและตอบแทนพระคุณด้วยความกตัญญู และสังคมควรที่จะยกย่องให้เกียรติรำลึกถึงผู้เป็นพ่อ จึงถือเอาวันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี ซึ่งเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเป็น "วันพ่อแห่งชาติ"

[แก้] วัตถุประสงค์เพื่อเทิดทูนพระเกียรติคุณของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เพื่อเทิดทูนพระคุณของพ่อ และยกย่องบทบาทของพ่อที่มีต่อครอบครัวและสังคม
เพื่อให้ลูกได้แสดงความกตัญญูกตเวทีต่อพ่อ
เพื่อให้ผู้เป็นพ่อ สำนึกในหน้าที่และความรับผิดชอบของตน
[แก้] กิจกรรมทุกปีจะมีการประดับธงชาติในทุกหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ราชการ โรงเรียน บริษัท และบ้านเรือน เพื่อถวายพระพรให้พระองค์ทรงมีพระชนมายุยิ่งยืนนาน และยังมีการทำความสะอาดแม่น้ำลำคลอง ถนน โรงพยาบาล และประดับรูปของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไว้ที่หน้าบริษัทหรือหน่วยงานต่างๆ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วย

กิจกรรมสำหรับลูกในวันพ่อแห่งชาติ คือ ประดับธงชาติตามอาคารบ้านเรือน จัดกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ หรือบำเพ็ญกุศล ทำบุญใส่บาตร เพื่ออุทิศส่วนกุศล และระลึกถึงพระคุณของพ่อ

นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมประกาศเกียรติคุณ พ่อตัวอย่าง หรือพ่อดีเด่น โดยกำหนดคุณสมบัติ คือ มีอายุ 40 ปีขึ้นไป ส่งเสริมการศึกษาของบุตร ธิดา นับถือศาสนาโดยเคร่งครัด งดเว้นอบายมุขทุกชนิด อุทิศตนเพื่อประโยชน์ต่อสาธารณชน

วันพระ


วันพระ หรือ วันธรรมสวนะ หรือ วันอุโบสถ หมายถึง วันประชุมของพุทธศาสนิกชนเพื่อปฏิบัติกิจกรรมทางศาสนาในพระพุทธศาสนาประจำสัปดาห์ หรือที่เรียกกันทั่วไปอีกคำหนึ่งว่า "วันธรรมสวนะ" อันได้แก่วันถือศีลฟังธรรม (ธรรมสวนะ หมายถึง การฟังธรรม) โดยวันพระเป็นวันที่มีกำหนดตามปฏิทินจันทรคติ โดยมีเดือนละ 4 วัน ได้แก่ วันขึ้น 8 ค่ำ, วันขึ้น 15 ค่ำ (วันเพ็ญ), วันแรม 8 ค่ำ และวันแรม 15 ค่ำ (หากเดือนใดเป็นเดือนขาด ถือเอาวันแรม 14 ค่ำ)

วันพระนั้นเดิมเป็นธรรมเนียมของปริพาชกอัญญเดียรถีย์ (นักบวชนอกพระพุทธศาสนา) ที่จะประชุมกันแสดงธรรมทุก ๆ วัน 8 ค่ำ 15 ค่ำ ซึ่งในสมัยต้นพุทธกาล พระพุทธเจ้ายังคงไม่ได้ทรงวางระเบียบในเรื่องนี้ไว้ ต่อมาพระเจ้าพิมพิสารได้เข้าเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และกราบทูลพระราชดำริของพระองค์ว่านักบวชศาสนาอื่นมีวันประชุมสนทนาเกี่ยวกับหลักธรรมคำสั่งสอนในศาสนาของเขา แต่ว่าพุทธศาสนายังไม่มี พระพุทธองค์จึงทรงอนุญาตให้มีการประชุมพระสงฆ์ในวัน 8 ค่ำ 15 ค่ำ และอนุญาตให้พระภิกษุสงฆ์ประชุมสนทนาและแสดงธรรมเทศนาแก่ประชาชนในวันดังกล่าว โดยตามพระไตรปิฎกเรียกวันพระว่า วันอุโบสถ (วัน 8 ค่ำ) หรือวันลงอุโบสถ (วัน 14 หรือ 15 ค่ำ) แล้วแต่กรณี[1]

หลังจากนั้น พุทธศาสนิกชนจึงถือเอาวันดังกล่าวเป็นวันธรรมสวนะสืบมา โดยจะเป็นวันสำคัญที่พุทธศาสนิกชนจะไปประชุมกันฟังพระธรรมเทศนาจากพระสงฆ์ที่วัด ในประเทศไทยปรากฏหลักฐานว่าได้มีประเพณีวันพระมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย[2]

วันพระในปัจจุบัน คงเหลือธรรมเนียมปฏิบัติอยู่แต่เฉพาะประเทศที่นับถือพระพุทธศาสนาเถรวาท เช่น ศรีลังกา, พม่า, ไทย, ลาว และเขมร (ในอดีตประเทศเหล่านี้ถือวันพระเป็นวันหยุดราชการ) โดยพุทธศาสนิกชนเถรวาทนับถือว่าวันนี้เป็นวันสำคัญที่จะถือโอกาสไปวัดเพื่อทำบุญถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์และฟังพระธรรมเทศนา สำหรับผู้ที่เคร่งครัดในพระพุทธศาสนาอาจถือศีลแปดหรือศีลอุโบสถในวันพระด้วย นอกจากนี้ชาวพุทธยังถือว่าวันพระไม่ควรทำบาปใด ๆ โดยเชื่อกันว่าการทำบาปหรือไม่ถือศีลห้าในวันพระถือว่าเป็นบาปมากกว่าในวันอื่น

ในประเทศไทย หลังจากวันพระได้ถูกยกเลิกไม่ให้เป็นวันหยุดราชการ ทำให้วันพระที่กำหนดวันตามปฏิทินจันทรคติส่วนใหญ่ไม่สอดคล้องกับปฏิทินที่ใช้กันอยู่ทั่วไป (เช่น วันพระไปตรงกับวันทำงานปกติ) ซึ่งคือหนึ่งในสาเหตุสำคัญในปัจจุบันที่ทำให้พุทธศาสนิกชนในประเทศไทยห่างจากการเข้าวัดเพื่อทำบุญในวันพระ

นอกจากนี้ ในประเทศไทยยังมีคำเรียกวันก่อนวันพระหนึ่งวันว่า วันโกน เพราะปกติในวันขึ้น 14 ค่ำปกติ ก่อนวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เป็นธรรมเนียมของพระสงฆ์ในประเทศไทยที่จะโกนผมในวันนี้

วันเด็ก

วันเด็กแห่งชาติ
ทำดีเพื่อจัดงานท​​ั้งหมดของเราเราได้รับมากกว่า 500 สมาชิกเหตุการณ์จากทั่วประเทศนิวซีแลนด์แสดงให้เห็นว่าวันเด็กแห่งชาติยังคงเติบโตในแต่ละปี

เราคอยที่จะได้ยินจากทุกท่านในช่วงปลายปีเช่นการเตรียมการสำหรับวันเด็กที่กำลังได้รับ 2,012!

ในขณะเดียวกันตรวจสอบให้แน่ใจเข้าชมงานวันเด็กของเราของคุณ หน้า เป็นเราจะยังคงโพสต์ข้อมูลในที่ผ่านมาและแจ้งให้ทราบเมื่อสมาชิกกรณีที่มีการเปิด!
นอกจากนี้คุณยังสามารถติดต่อเราได้ทั้งทางอีเมล หรือเกี่ยวกับจำนวนของเรา
หากคุณต้องการที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวันเด็กเข้าชมของเรา เกี่ยวกับเรา ส่วน

นโยบายความเป็นส่วนตัว ลิขสิทธิ์และเงื่อนไข กระทรวงการพัฒนาสังคม

การวาดภาพ

การวาดภาพเป็น ทัศนศิลป์ ที่ทำให้การใช้จำนวนของเครื่องมือวาดภาพในการทำเครื่องหมายใด ๆ ที่เป็นสื่อสองมิติ ตราสารที่พบบ่อย ได้แก่ กราไฟท์ ดินสอ , ปากกาและหมึก , หมึก แปรง , ขี้ผึ้ง ดินสอสี , ดินสอสี , ถ่าน , ชอล์ก , พาส , เครื่องหมาย , สไตลัส หรือโลหะชนิดต่างๆเช่น ศิลปินที่ปฏิบัติหรือทำงานในการวาดภาพอาจจะเรียกว่าเป็น คนเขียนแบบแปลน หรือกร่าง

จำนวนเล็กน้อยของวัสดุที่จะถูกปล่อยออกไปยังสื่อสองมิติซึ่งใบที่มองเห็นได้ทำเครื่องหมายกระบวนการจะคล้ายกับที่ของ ภาพวาด การสนับสนุนที่พบบ่อยที่สุดสำหรับการวาดภาพเป็น กระดาษ แม้ว่าวัสดุอื่น ๆ เช่น กระดาษแข็ง , พลาสติก, หนัง , ผ้าใบ และ คณะกรรมการ อาจจะใช้ การวาดภาพชั่วคราวอาจจะทำบน กระดานดำ หรือ ไวท์บอร์ด หรือแท้จริงเกือบทุกอย่าง ขนาดกลางที่ได้รับความนิยมและความหมายพื้นฐานของการแสดงออกของประชาชนตลอดประวัติศาสตร์ของมนุษย์ ญาติความสะดวกของว่างของการใช้เครื่องมือวาดภาพขั้นพื้นฐานทำให้การวาดภาพสากลมากขึ้นกว่าสื่ออื่น ๆ มากที่สุด

สารบัญ
1 ภาพรวม
2 ประวัติศาสตร์
2.1เด่น
3 สื่อ
4 สื่อการประยุกต์ใช้
5 วัสดุ
6 โทน
7 เค้าโครง
8 มุมมอง
9 โฆษณา
10 ภาพประกอบดิจิตอล
11 ดูยัง
12 อ้างอิง
13 อ่านเพิ่มเติม
14 ลิงก์ภายนอก

รายละเอียด

มาดาม กับสุนัขของเธอ วาดเป็นรูปแบบของการแสดงออกที่เป็นภาพและเป็นหนึ่งในรูปแบบที่สำคัญภายในงานทัศนศิลปะ มีจำนวนของหมวดหมู่ย่อยของการวาดภาพรวมถึงจะมี การ์ตูน วิธีการวาดบางคนหรือบางวิธีการเช่น และชนิดอื่น ๆ เป็นทางการของการวาดภาพเช่นการวาดภาพบนกระจกมีหมอกที่เกิดจากไอน้ำจากฝักบัวอาบน้ำหรือวิธีการ ของซึ่งในจุดที่จะทำเว็บไซต์ที่ สิ่งสกปรกในแผ่นกระดาษเปล่าและเส้นจะทำแล้วระหว่างจุดที่อาจหรืออาจไม่ได้รับการพิจารณาเป็นส่วนหนึ่งของ"ภาพวาด"เป็น"ศิลปะ." ในทำนองเดียวกันการติดตามการวาดภาพบนบางชิ้นของกระดาษที่ได้รับการออกแบบบางครั้งเพื่อวัตถุประสงค์ที่ ( กระดาษลอกลาย ), รอบ ๆ ร่างของ preexisting รูปร่างที่แสดงถึงบทความนี้ที่ยังไม่ถือเป็นงานศิลปะถึงแม้ว่ามันอาจเป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมการยกร่างของ

'วาดภาพ'เป็นคำที่ใช้เป็นทั้งคำกริยาและคำนาม :

คือการกระทำของการทำเครื่องหมายบนพื้นผิวเพื่อให้เป็นไปสร้างภาพในรูปแบบหรือรูปร่าง
ภาพการผลิตจะเรียกว่าเป็นภาพวาด . รวดเร็ว การวาดภาพสากอาจจะกำหนดเป็น ร่าง .
การวาดภาพมีความกังวลโดยทั่วไปกับการทำเครื่องหมายของเส้นและพื้นที่ของเสียงลงบนกระดาษ ภาพวาดดั้งเดิมได้ถูกขาวดำ, หรืออย่างน้อยมีสีน้อย [1] ในขณะที่ภาพวาดสีดินสอที่ทันสมัย ​​ อาจใกล้หรือข้ามเขตแดนระหว่างภาพวาดและภาพวาดคำศัพท์ แต่การวาดภาพจะแตกต่างจากภาพวาดที่คล้ายกันที่แม้จะมี สื่อที่ เป็นลูกจ้างมักจะอยู่ในงานทั้งสอง สื่อแห้งปกติที่เกี่ยวข้องกับการวาดภาพเช่นชอล์ก, อาจจะใช้ใน สีพาสเทล ภาพวาด ภาพวาดอาจจะทำกับอาหารเหลวที่นำไปใช้กับแปรงหรือปากกา สนับสนุนที่คล้ายกันในทำนองเดียวกันสามารถให้บริการทั้ง : ภาพวาดโดยทั่วไปเกี่ยวข้องกับการใช้สีที่เป็นของเหลวลงบนผ้าใบที่จัดทำหรือแผง แต่บางครั้งจะถูกวาดขึ้นเป็นครั้งแรกในการสนับสนุนเดียวกันกับที่ ภาพวาดมักจะสำรวจโดยเน้นมากในการสังเกตการแก้ปัญหาและองค์ประกอบ การวาดภาพนอกจากนี้ยังมีลูกจ้างประจำในการเตรียมการสำหรับภาพวาด เพิ่มเติมความแตกต่างของพวกเขา

ประวัติความเป็นมา

วาดภาพอัตโนมัติ หมึกบนกระดาษ, 23.5 x 20.6 ซม. พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ ไม่มีใครรู้จริงเมื่อ ศิลปะ หรือภาพวาดจริงๆเริ่ม มนุษย์ทำตามที่คาดคะเนและการวาดภาพสเก็ตช์ในปีแรก ภาพเขียนถ้ำเป็นตัวอย่างที่ดี มีคนทำหินและ ถ้ำ ภาพวาด ตั้งแต่ สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ครั้ง By โดยที่ 12 - 13 ศตวรรษที่พระสงฆ์เตรียมต้นฉบับสว่างบนหนังลูกวัวหรือหนังสำหรับเขียนหนังสือในวัดทั่วยุโรปได้ใช้นำไปสู่​​ เพื่อวาดเส้นสำหรับเขียนของพวกเขาและสำหรับการแสดงสำหรับ ของพวกเขา เร็ว ๆ นี้ศิลปินโดยทั่วไปได้ใช้ เงิน เพื่อให้ภาพวาดและ ในตอนแรกพวกเขาใช้และนำมาใช้เม็ดไม้กับพื้นดินที่เตรียมไว้สำหรับภาพวาดเหล่านี้ เมื่อ กระดาษ กลายเป็นวางจำหน่ายทั่วไปตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 14, ภาพวาดศิลปินทั้งการศึกษาเพื่อเตรียมการและการทำงานเสร็จแล้วก็กลายเป็นกันมากขึ้น

การเล่นดนตรีสากล


หัวข้อ : มารู้จักเครื่องดนตรีสากลกัน


เครื่องดนตรีคืออุปกรณ์ในการสร้างเสียงดนตรีที่สำคัญ ความแตกต่างของรูปร่าง ลักษณะวัตถุ
ที่ใช้ทำเครื่องดนตรีและวิธีการทำให้เกิดเสียงจะให้เสียงดนตรีที่แตกต่างกันให้อารมณ์แก่ผู้ฟังต่างกัน
การจัดแบ่งกลุ่มหรือประเภทของเครื่องดนตรีอาจทำได้หลายวิธีการ อาจจัดตามรูปร่างลักษณะ วิธีการ
ทำให้เกิดเสียง ฯลฯ ในดนตรีของชาติต่าง ๆ ก็มีวิธีการจัดโดยอาศัยหลักเกณฑ์ที่แตกต่างกันออกไป
สำหรับเครื่องดนตรีสากล ในปัจจุบันนิยมแบ่งเป็นกลุ่มต่าง ๆ ดังนี้

กลุ่มเครื่องสาย (String Instruments)
เป็นเครื่องดนตรีที่ทำให้เกิดเสียงโดยการสั่นสะเทือนของสายลวด เชือก เอ็น หรือไนลอน
และมีตัวกำธรเสียง ทำหน้าที่ขยายเสียงให้ดังมากขึ้น คุณภาพของเสียงขึ้นอยู่กับรูปร่าง และวัตถุที่ใช้
ทำ การสั่นสะเทือนของสายอาจทำได้โดยการสี หรือ ดีดโดยอาจกระทำโดยตรง หรือเพิ่มกลไกให้ยุ่ง
ยากขึ้น เครื่องสายที่พบเห็นในปัจจุบัน นิยมใช้วิธีทำให้เกิดเสียงได้ 2 วิธี คือ วิธีสี และวิธีดีด
1.1 เครื่องสายประเภทใช้คันสี ในกลุ่มนี้ประกอบด้วย
1)ไวโอลิน (Violin) ไวโอลินคันหนึ่ง ๆ ประกอบด้วยแผ่นไม้หลายชิ้น แต่ละชิ้นเลือก
มาจากไม้ชนิดต่าง ๆ กันตามความเหมาะสมที่จะนำมาทำเป็นส่วนต่าง ๆ ของซอ ด้านหน้าใช้ไม้พรุช
ซึ่งเป็นไม้เนื้ออ่อนมีลายละเอียดด้านหลังใช้ไม้เมเปิ้ล
ไวโอลินประกอบด้วยสาย 4 สาย แต่ละสายเทียบเสียงห่างกันคู่ 5 เพอร์เฟค คือ เสียง
G-D-A-E สายต่ำสุดเทียบเสียง G ต่ำถัดจาก Middle C สายทั้งสี่มีความยาวเท่ากัน แต่ระดับเสียง
แตกต่างกันตามขนาดไวโอลินขนาดมาตรฐานจะมีความยาวทั้งสิ้น 23.5 นิ้ว คันชักยาว 29 นิ้ว
ไวโอลินเป็นเครื่องดนตรีที่ใช้เล่นท่วงทำนอง (Melodic Instrument) มีเสียงแหลมสดใส
ถ่ายทอดอารมณ์ได้ดีถ้าต้องการจะเล่นให้เสียงหวาน เศร้า ก็ทำได้ โดยใช้เทคนิคการเล่นแบบต่าง ๆ





การเล่นดนตรีสากล


หัวข้อ : มารู้จักเครื่องดนตรีสากลกัน


เครื่องดนตรีคืออุปกรณ์ในการสร้างเสียงดนตรีที่สำคัญ ความแตกต่างของรูปร่าง ลักษณะวัตถุ
ที่ใช้ทำเครื่องดนตรีและวิธีการทำให้เกิดเสียงจะให้เสียงดนตรีที่แตกต่างกันให้อารมณ์แก่ผู้ฟังต่างกัน
การจัดแบ่งกลุ่มหรือประเภทของเครื่องดนตรีอาจทำได้หลายวิธีการ อาจจัดตามรูปร่างลักษณะ วิธีการ
ทำให้เกิดเสียง ฯลฯ ในดนตรีของชาติต่าง ๆ ก็มีวิธีการจัดโดยอาศัยหลักเกณฑ์ที่แตกต่างกันออกไป
สำหรับเครื่องดนตรีสากล ในปัจจุบันนิยมแบ่งเป็นกลุ่มต่าง ๆ ดังนี้

กลุ่มเครื่องสาย (String Instruments)
เป็นเครื่องดนตรีที่ทำให้เกิดเสียงโดยการสั่นสะเทือนของสายลวด เชือก เอ็น หรือไนลอน
และมีตัวกำธรเสียง ทำหน้าที่ขยายเสียงให้ดังมากขึ้น คุณภาพของเสียงขึ้นอยู่กับรูปร่าง และวัตถุที่ใช้
ทำ การสั่นสะเทือนของสายอาจทำได้โดยการสี หรือ ดีดโดยอาจกระทำโดยตรง หรือเพิ่มกลไกให้ยุ่ง
ยากขึ้น เครื่องสายที่พบเห็นในปัจจุบัน นิยมใช้วิธีทำให้เกิดเสียงได้ 2 วิธี คือ วิธีสี และวิธีดีด
1.1 เครื่องสายประเภทใช้คันสี ในกลุ่มนี้ประกอบด้วย
1)ไวโอลิน (Violin) ไวโอลินคันหนึ่ง ๆ ประกอบด้วยแผ่นไม้หลายชิ้น แต่ละชิ้นเลือก
มาจากไม้ชนิดต่าง ๆ กันตามความเหมาะสมที่จะนำมาทำเป็นส่วนต่าง ๆ ของซอ ด้านหน้าใช้ไม้พรุช
ซึ่งเป็นไม้เนื้ออ่อนมีลายละเอียดด้านหลังใช้ไม้เมเปิ้ล
ไวโอลินประกอบด้วยสาย 4 สาย แต่ละสายเทียบเสียงห่างกันคู่ 5 เพอร์เฟค คือ เสียง
G-D-A-E สายต่ำสุดเทียบเสียง G ต่ำถัดจาก Middle C สายทั้งสี่มีความยาวเท่ากัน แต่ระดับเสียง
แตกต่างกันตามขนาดไวโอลินขนาดมาตรฐานจะมีความยาวทั้งสิ้น 23.5 นิ้ว คันชักยาว 29 นิ้ว
ไวโอลินเป็นเครื่องดนตรีที่ใช้เล่นท่วงทำนอง (Melodic Instrument) มีเสียงแหลมสดใส
ถ่ายทอดอารมณ์ได้ดีถ้าต้องการจะเล่นให้เสียงหวาน เศร้า ก็ทำได้ โดยใช้เทคนิคการเล่นแบบต่าง ๆ





การร้อยมาลัย



วิธีการร้อยมาลัยตุ้ม มีหลักสำคัญดังต่อไปนี้

1.จะต้องเริ่มต้นร้อยด้วยดอกเล็ก หรือกลีบเล็กก่อนควรส่งก้านหรือส่งกลีบสั้นที่สุด และชั้นต่อ ๆ ไป ควรส่งก้านให้ยาวขึ้นทีละน้อย ๆ จนถึงช่องราวประมาณครึ่งเป็นช่วงที่มีความป่องโตเต็มที่ เท่ากับขนาดที่ต้องการ ( ช่อง 2 – 3 แถว ตรงกลาง ) แล้วค่อย ๆ ส่งก้านสั้นลงทีละน้อย ย้อนกลับมาเท่ากับขนาดตอนขึ้นต้น

2.ความยาวของมาลัยตุ้มประมาณ 2.5 นิ้ว – 3.5 นิ้ว ต้องระวังอย่าร้อยให้ยาวนัก เพราะมองดูแล้วจะกลายเป็นมาลัยตัวหนอนไป

3.การขึ้นต้นมาลัยตุ้มนั้น จำนวนดอกหรือกลีบไม่แน่นอนย่อมขึ้นอยู่กับขนาดของดอกหรือกลีบด้วยว่า มีขนาดเล็กหรือใหญ่ ถ้าดอกใหญ่หรือกลีบใหญ่ก็ขึ้นจำนวนกลีบน้อยแล้วค่อย ๆ เพิ่มขึ้นตามความเหมาะสมในชั้นต่อๆ ไป เช่น ถ้าดอกพุดตูม ดอกมะลิตูม ( ขนาดเล็ก ) หรือกลีบกุหลาบ จะขึ้นต้นประมาณ 5 ดอก หรือ 5 กลีบ แต่ถ้าเป็นดอกบานไม่รู้โรยจะขึ้นต้นเพียง 1 ดอกเท่านั้น


การเเต่งกลอน

อธิบายการแต่งกลอนแปดสุภาพ อธิบายกลอนแปดสุภาพ

กลอนแปดสุภาพนั้น บทหนึ่งมี ๒ คำกลอน หนึ่งคำกลอนมี ๒ วรรค แต่ละวรรคมี ๘ คำการสัมผัส
ให้คำสุดท้ายวรรคแรก(วรรคสดับ) ไปสัมผัสกับคำที่ ๓ หรือ ๕ ของวรรคที่ ๒ (วรรครับ)
ให้คำสุดท้ายวรรคที่สอง(วรรครับ) ไปสัมผัสกับคำสุดท้ายของวรรคที่ ๓ (วรรครอง)
ให้คำสุดท้ายของวรรคที่สาม(วรรครอง) ไปสัมผัสกับคำที่ ๓ หรือ ๕ ของวรรคที่ สี่(วรรคส่ง)
การสัมผัสระหว่างบท หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “การสัมผัสเชื่อมร้อยระหว่างบท”
การเชื่อมสัมผัสระหว่างบท ให้คำสุดท้ายของวรรคทึ่สี่ คือ วรรคส่ง ไปสัมผัส
กับคำสุดท้ายของวรรคที่สอง คือวรรครับของบทถัดไป ให้แต่งเชื่อมบทอย่างนี้
เรื่อยไปจนจบเนื้อความตามที่ต้องการ
การบังคับสัมผัส
มีข้อบังคับสัมผัสนอก ๓ แห่ง คือ ในบท ๒ แห่ง และสัมผัสเชื่อมระหว่างบท
๑ แห่ง และอีกอย่างหนึ่ง ถ้าจะสัมผัสสระ หรือพยัญชนะเพื่อความไพเราะในบท
เดียวกัน ก็จักทำให้กลอนแต่ละบทมีความไพเราะเสียงกลมกลืนยิ่งขึ้น
ข้อบังคับ เรื่องการกำหนดเสียงวรรณยุกต์ ในคำสุดท้ายของแต่ละวรรค มีดังนี้
คำสุดท้ายของวรรคที่ ๑ ใช้เสียง สามัญ เอก โท ตรี จัตวา แต่ไม่นิยมสามัญ
คำสุดท้ายของวรรคที่ ๒ ห้ามใช้เสียง สามัญ และตรี นิยมใช้ จัตวา เป็นส่วนมาก
คำสุดท้ายของวรรคที่ ๓ ใช้เสียง สามัญ หรือ ตรี ห้ามใช้ เอก โท จัตวา
คำสุดท้ายของวรรคที่ ๔ ใช้เสียงสามัญ หรือ ตรี ห้ามเสียง เอก โท จัตวา ส่วนมากนิยมเสียงสามัญ
ดังแผนผังสัมผัสต่อไปนี้
ผังบังคับสัมผัส
ผังสัมผัสบังคับ และสัมผัสสระ สัมผัสอักษรเพื่อความไพเราะ หรือจะเรียกว่า
มีทั้งการสัมผัสนอกและสัมผัสใน ดังแผนผังการแต่งกลอนของ ท่านพระสุนทร
โวหาร หรือ ท่านสุนทรภู่ มีกลเม็ดวิธีสัมผัสดังนี้ ผังสัมผัสบังคับรวมทั้งสัมผัสอักษร(พยัญชนะ) และสัมผัสสระเพื่อความไพเราะ
ตัวอย่างการสัมผัส กลอนแปดสุภาพ ของท่านสุนทรภู่ ดังต่อไปนี้

ถึงม้วยดิน สิ้นฟ้า มหาสมุทร ไม่สิ้นสุด ความรัก สมัครสมาน
แม้นเกิดใน ใต้หล้า สุธาธาร ขอพบพาน พิศวาส ไม่คลาดคลา
แม้เนื้อเย็น เป็นห้วง มหรรณพ พี่ขอพบ ศรีสวัสดิ์ เป็นมัจฉา
แม้เป็นบัว ตัวพี่ เป็นภุมรา เชยผกา โกสุม ปทุมทอง
เจ้าเป็นถ้ำ อำไพ ขอให้พี่ เป็นราชสีห์ สมสู่ เป็นคู่สอง
จะติดตาม ทรามสงวน นวลละออง เป็นคู่ครอง พิศวาส ทุกชาติไป.

วิธีใช้วรรณยุกต์ ในคำสุดท้ายของแต่ละวรรค
๑๒๓๔๕๖๗๘ คำท้ายวรรค สดับ ใช้ สามัญ เอก โท ตรี จัตวา ไม่นิยมสามัญ
๑๒๓๔๕๖๗๘ คำท้ายวรรค รับ ห้ามใช้ สามัญและตรี นิยมใช้ จัตวา เป็นส่วนมาก
๑๒๓๔๕๖๗๘ คำท้ายวรรค รอง ใช้ สามัญ หรือ ตรี ห้ามใช้ เอก โท จัตวา
๑๒๓๔๕๖๗๘ คำท้ายวรรค ส่ง ใช้ สามัญหรือตรี ห้ามใช้ เอก โท จัตวา นิยมสามัญ
กลอนแปดสุภาพ ต่อไปนี้ เป็นกลอนที่ข้าพเจ้าแต่งขึ้นโดยแทรกธรรมะไว้เพื่อ
ให้คติเตือนใจหรือให้ข้อคิดทุกบทกลอน และได้ตั้งชื่อหัวข้อเรื่องไว้ด้วย เมื่อท่าน
อ่านแล้วกรุณาได้โปรดใช้ความคิดพินิจพิเคราะห์ให้ดี และบทกลอนที่มีเนื้อความ
สั้นๆ ทั้งหมดนี้ ข้าพเจ้าได้ตั้งชื่อเรื่องว่า“ คลายกังวลทางพ้นทุกข์ ”
จิตผุดผ่องเพราะเห็นธรรม
เกิดเป็นสัตว์ มนุษย์ ไม่สุดสิ้น มาราคิน สิ่งจร สะท้อนหลง
จิตบริสุทธิ์ ผุดผ่อง มาหมองลง เพราะโลภหลง มายา มาหุ้มใจ
หัดนึกถึง ร่างตน หมดจนจิต สุดชีวิต แค่ตาย ไร้สาไถย
หัดละวาง ว่างสงบ จบเรื่องใจ พบโลกใหม่ ผุดผ่อง มองเห็นธรรม.



...หยาดกวี...

๒ กันยายน ๒๕๕๑

การทำเทียนเจล


การทำเทียนเจล

งานศิลปะอีกอย่างหนึ่งครับที่ทำได้เหมือนของจริงมากไม่ว่าจะทำเป็นลักษณะใดเช่น เครื่องดื่ม ขวดโหลที่มีปลาสวยงามแหวกว่ายอยู่ภายใน ไอศครีมเย็นฉ่ำน่ารับประทาน หลากหลายแล้วแต่จะคิดทำ เครื่องไม้เครื่องมือที่ใช้ทำคล้ายๆกับการทำเทียมหอมเลยครับ เรามาดูกัน
วัสดุที่ต้องใช้
1 เทียนเจลใส
2 ไส้เทียนแบบมีเส้นลวดอยู่ภายใน ทำจากเส้นด้ายฝ้าย 100 %
3 น้ำหอมกลิ่นต่างๆ
4 สีที่ใช้ทำเทียนชนิดผง จะสามารถละลายในน้ำมันได้
5 แก้วใสแบบสวยๆหรือแบบแปลกๆ จานรองแก้ว ชามแก้วแล้วแต่ว่าจะทำให้เหมือนอะไร เช่น จะทำเครื่องดื่มก็ใช้แก้วใสธรรมดา ถ้าจะทำไอศครีมก็เลือกใช้แก้วใส่ไอศครีมจะมีลักษณะเป็นแก้วหนาวงรี เป็นต้น
6 พาราฟิน
7 อุปกรณ์ตกแต่งต่างๆ เช่นหลอดกาแฟ ทรายสีต่างๆ ก็ขึ้นอยู่ว่าจะทำเป็นอะไรครับ
อุปกรณ์
1 เตาหุงข้าวไฟฟ้าหรือเตาถ่านใช้ละลายเทียน ถ้าเป็นเตาหุงข้าวไฟฟ้าจะสะดวกกว่าครับ
2 ภาชนะสำหรับละลายเทียนเจลเช่น หม้อโลหะ กะลามัง
3 สารภี ช้อน ส้อม
4 มีด ใช้ตกแต่งผิวงานให้เรียบร้อย
5 กรรไกร
6 พิมพ์ขนมแบบต่างๆ
สำหรับการทำให้ออกมาชิ้นงานสวยๆนั้นสามารถทำได้มากมายหลายแบบด้วยกัน ผมขอนำมาบางแบบเพื่อเป็นแนวทางก็แล้วกัน พอได้ลองลงมือทำคุ้นเคยกับขั้นตอนการทำต่างๆแล้วก็จะสามารถปรับแบบได้เอง ลองดูนะครับ
เทียนเจลรูปแบบต่างๆ
เบียร์เย็นเจี๊ยบ

วิธีทำ
1 เตรียมแก้วเบียร์ใส 1 ใบ แบบไหนก็ได้ที่คอเบียร์ชอบละครับ ปกติก็จะเป็นแบบมีหูจับ ทำความสะอาดรอไว้
2 นำเจลใส่หม้อหรือกาละมังขึ้นตั้งไฟให้ละลาย ให้ใช้ไฟอ่อน
3 เมื่อละลายแล้วนำสีเหลืองค่อยๆเติมลงไปพร้อมกับคนให้ทั่ว ดูสีให้เหมือนกับสีของเบียร์จริงก็ใช้ได้
4 คราวนี้ก็เติมน้ำหอมกลิ่นที่ชอบลงไป ให้ใส่แต่น้อยครับอย่าใส่มากเพราะถ้ามากไปเจลจะขุ่น
5 เมื่อเจลเย็นตัวลงจะเริ่มหนืดใช้ส้อมคนเจลให้ฟองอากาศขึ้นให้ดูเหมือนมีแก๊ซอยู่ภายใน
6 ทีนี้เรามาทำฟองเบียร์ขาวๆโดยนำพาราฟินมาตั้งไฟให้ละลาย พอเริ่มแข็งตัวใช้ช้อนหรือส้อมก็ได้ขูดให้เป็นฟอง เสร็จแล้วตักใส่แก้วเบียร์ในข้อ 5
7 จากนั้นก็นำไม้ปลายแหลมเช่นไม้เสียบลูกชิ้น ไม้จิ้มฟัน หรือเหล็กแหลมเสียบลงไปให้เป็นรู นำไส้เทียนสอดเข้าไป เสร็จแล้วครับ
งานแบบนี้เวลาจะคิดผลงานใหม่ๆออกมาต้องใช้จินตนาการเหมือนกันครับ แรกๆก็ดูจากของจริงก่อนว่ามีลักษณะเป็นอย่างไร ตรงไหนเราต้องใช้เจล สีอะไร ตรงไหนจะเป้นพาราฟิน ลองทำดูครับ รวยแล้วห้ามลืมผมก็แล้วกัน